คงต้องบันทึกไว้อีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าคอนเสิร์ตใหญ่ (อีกครั้งในบ้านเรา) ของป๊อปสตาร์สาวขวัญใจนักฟังเพลงชาวไทย ไคลี่ มิน็อก ภายใต้ชื่อ Kylie X 2008 Live In Bangkok จะมอบความน่าทึ่ง ความสนุกสนาน ความมันส์ ความเนี้ยบ ความเท่ แลความสุข ให้เต็มอิ่มในหัวใจได้ตลอดทั้งโชว์
เพราะภาพที่คนทั้งฮอลล์พร้อมใจกันปรบมือ กระทืบเท้า เป่าปากเรียกชื่อ ไคลี่ๆ เพื่อเป็นการอังกอร์จะเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งในคืนเดียว!!
เพราะได้ยินแฟนเพลงของไคลี่ในบ้านเราหลายคนเปรยว่า ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ชมคอนเสิร์ตของเธอในภาวะที่เศรษฐกิจและบ้านเมืองไทยเป็นแบบนี้ และในขณะที่เธอกลายเป็นปีอปสตาร์แถวต้นๆ ของโลกไปแล้วเช่นในตอนนี้
การมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งของ ไคลี่ มิน็อก จึงเป็นเหมือนการเติมเต็มความสุข และมอบความสนุก ที่ได้ปลุกให้ทุกคนพร้อมใจกันยืนปรบมือตามและอดใจไม่ไหวที่จะต้องขยับตัวเต้น และร้องตามเพลงของเธอในท่อนฮุคที่โดนๆ จากซิงเกิ้ลดังๆ ที่เธอขนมาโชว์เมื่อคืนที่ผ่านมา
คอนเสิร์ตถูกเปิดขึ้นด้วยวิชวลเอฟเฟคท์สุดล้ำจนทำให้ลืมแบ็คกราวนด์พื้นๆ ธรรมดาๆ จากคอนเสิร์ตอื่นไปสนิท ไหลลื่นไปกับธีมแต่ละธีม แต่ก็ไม่มีธีมไหนที่จะไม่ปลุกให้คนในอารีน่าลุกขึ้นมาเต้น บวกกับเพลงที่อาร์เรนจ์ใหม่เพื่อใช้ในคอนเสิร์ตนั้น แต่ละเพลงก็เก๋ด้วยกรูฟที่โดนใจคอเพลงเต้นรำบ้านเราอยู่แล้ว โดยเฉพาะ Can't Get You Out of My Head หลายคนอาจสงสัยว่าเป็นเวอร์ชั่นอะไรไม่คุ้นหูนัก แต่หากคอหนังที่เคยชมหนังเรื่อง Layer Cake ก็น่าจะคุ้นกับเวอร์ชั่นในคอนเสิร์ตเมื่อคืนนี้ ในกรูฟใหม่ที่ถูกมิกซ์กับเพลง Blue Monday ของวง นิว ออร์เดอร์จนเท่ไปอีกแบบ
หรือจะเป็นธีมชื่นชีวานาวี ที่เลือกเพลง Love Boat มาร้อยเรื่องต่อด้วยเพลง Copacabana ผสมสีสันของซาวนด์ฟังค์- ดิสโก้ ย้อนยุคนิดๆ แต่ถ้าจะเอาธีมที่ดูแล้วนั่งแทบไม่ติด ตาแทบไม่กะพริบ เพราะทั้งร้อนแรงและเซ็กซี่สุดๆ คงอยู่ที่เพลง Slow และ Two Hearts ที่แอบเห็นหลายคนตาร้อนผ่าวๆ จนลืมแดนซ์ไม่รู้ตัวก็มี
หลังเพลง Love At First Sight จบ ไคลี่ และเดอะแบนด์ของเธอก็ทำท่าจะอำลาผู้ชมชาวไทย แต่พอไฟในฮอลล์ทำท่าจะดับ เสี่ยงปรบมือเป่าปากอยากสนุกต่อก็ดังลั่น เพลง The One จึงทำให้หลายคนที่นั่งนิ่งๆ เหนียมๆ แค่โยกเล็กๆ ยังลุกขึ้นมาเต้นกันเหมือนไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบ ก่อนที่ I Should Be So Lucky เพลงฮอตของวัยรุ่นไทยเมื่อหลาย..หลายปีก่อน จะดังขึ้นอีกครั้งในคืนวันนั้น เพื่อจะส่งท้ายความมันส์ความสนุกที่รอกันมานานหลายปีแบบ แฮปปี้ เอนดิ้ง
Credit : Sanook.com
0 comments:
Post a Comment